ผู้เขียน หัวข้อ: สยามสปอร์ตฯยันส.บอลผิดสัญญาถึงที่สุดแล้วคงต้องพึ่งศาล  (อ่าน 6178 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

มหาเทพจุติ

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 892
    • ดูรายละเอียด

  อดิศัย วารินทร์ศิริกุล ประธานกรรมการบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคต จำกัด (มหาชน) เผยการบอกเลิกสัญญา สมาคมกีฬาฟุตบอลฯเป็นผู้ผิดสัญญาไม่ใช่สยามสปอร์ต ยอมรับมีผลกระทบหลายด้าน ย้ำชัดเบื้องต้นยังไม่พึ่งกฎหมายขอเจรจากับสมาคมโดยตรงก่อนถ้าตกลงกันไม่ได้ต้องพึ่งศาล ด้าน ดร.สรายุทธ มหวลีรัตน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ชี้ชัดตามมติที่ออกมาจากสมาคม ส่งผลให้เกิดผลเสียต่อการลงทุนอ้างที่ผ่านมาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้สโมสรสมาชิกจาก 300 ล้าน กระทั้งปัจจุบันรับถึง 600 ล้าน พร้อมทั้งมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอีกจำนวนหลายล้านบาท ยืนยันสัญญาที่ถูกนำเอาไปแพร่บนเวบไซค์ขอพึ่งอำนาจศาลตัดสินหลัง สมาคมกีฬาฟุตบอลฯละเมิด ความลับของบริษัท

ภายหลังจากที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ทำหนังสือยกเลิกสัญญามอบให้ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จํากัด (มหาชน) เป็นผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ของสมาคม โดยระบุว่า ที่ประชุมสภากรรมการมีมติไม่ประสงค์ให้บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการถ่ายทอดสดการบันทึกการแข่งขันและภาพไฮไลต์การแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก, ฟุตบอลดิวิชั่น 1, ลีกภูมิภาค, เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ รวมทั้งการแข่งขันภายในสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประจำปี 2556 - 2560 ในฐานะตัวแทนสมาคมฯ อีกต่อไป

ล่าสุดช่วงบ่ายของ วันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา ณ สตูดิโอ 1 ภายในบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคต จำกัด (มหาชน) นายอดิศัย วารินทร์ศิริกุล ประธานกรรมการบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคต จำกัด (มหาชน) , ดร.สรายุทธ มหวลีรัตน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคต จำกัด (มหาชน) และ โอฬาร เชื้อบาง ผู้อำนวยการกองบรรณาธิการ บริษัทสยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด(มหาชน) ร่วมแถลงข่าวผลกระทบต่อการบอกเลิกสัญญา สิทธิประโยชน์ของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ

โดย อดิศัย วารินทร์ศิริกุล ประธานกรรมการบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคต จำกัด (มหาชน) ยืนยันการบอกเลิกสัญญา สมาคมกีฬาฟุตบอลฯเป็นผู้ผิดสัญญาไม่ใช่สยามสปอร์ต ยอมรับมีผลกระทบ 2 ด้าน คือ ภาพลักษณ์ ที่ถูกมองว่า ไปทำวงการฟุตบอลเกิดความเสียหายหรือไม่ รวมทั้งทรัพย์สินบริษัท อุปกรณ์การถ่ายทอดสด รวมถึงทรัพยากรบุคคล ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม

อย่างไรก็ตามการพูดครั้งนี้เราไม่ได้ออกมาทวงบุญคุณท่านแต่อย่างใด เพียงอยากให้ทุกคนได้รับทราบในหลักการของบริษัทเท่านั้น จากนี้ไปสยามสปอร์ตจะขอเจรจากับสมาคมฯ โดยเบื้องต้นจะไม่มีการฟ้องร้อง เพราะเราไม่ต้องการทะเลาะหรือสร้างความขัดแย้งให้เกิดวงการกีฬา แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้จริงๆเราได้ให้ฝ่ายกฏหมายดูเรื่องนี้อยู่ว่าจะทำอย่างไรต่อไป

ทาง ด้าน ดร.สรายุทธ มหวลีรัตน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เผยว่า ตามมติที่ออกมาจากสมาคม ส่งผลให้เกิดผลเสียต่อการลงทุนที่ได้เซ็นเอาไว้ในการดูแลสิทธิประโยชน์กับสมาคมตั้งแต่ปี 56-60 แถมยังกระทบต่อบรรดาสปอนเซอร์ที่ได้เซ็นไว้กับ โตโยต้า, ยามาฮ่า, เอไอเอส, ช้าง และโค้กอีกด้วย

นอกจากยั้น ดร.สรายุทธ ยังออกมาเผยอีกว่า ที่ผ่านมาได้รับค่าลิทสิทธิ์ 300 ล้านบาทที่ได้มอบให้กับสโมสรสมาชิกอย่างทั่วกัน จนมาเป็น 600 ล้านในปี 57-59 ขณะเดียวกันยังได้ดูแลเรื่องการถ่ายทอดสดไทยลีก 306 แมตช์, ดิวิชั่น 1, ดิวิชั่น 2 และฟุตบอลถ้วยต่างๆ ต้องจ่ายค่าเช่าสัญญาณให้กับทีโอที และการใช้รถโอบีแต่ละนัดไม่ต่ำกว่าแสนบาทเลยทีเดียว

บอร์ดบริหารสยามสปอร์ต ยังกล่าวถึงกรณีที่ ที่หนังสือสัญญาหลุดเป็นข่าวในเวบไซค์ต่างๆอีกว่า "สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้เรียกสัญญาของเราดู ผมก็ได้ส่งโปรแกรมไลน์ไปให้ 2 คนเท่านั้น คือ พล.ต.ท.พิสัณฑ์ จุลดิลก เลขาธิการ และ คุณชนินทร์ แก่นหิรัญ ฝ่ายกฏหมาย เพื่อให้สมาคมนำไปใช้ประชุมในวันที่ 7 มี.ค.

"แต่มันเกิดหลุดแพร่ไปในเว็บไซค์ต่างๆนั้น ขอยืนยันว่าไม่ได้มาจากเรา เพราะเราเองไม่เคยนำมาเปิดเผยในที่ประชุมของบริษัทอยู่แล้วเนื่องจากเป็นความลับของบริษัท ที่ไม่ควรจะนำเอามาเปิดเผยต่อสาธารณชน แต่หากเราจะเปิดเผยจริงๆ สยามสปอร์ต ก็มีเว็บไซต์เพื่อกระจายข่าวรองรับอยู่แล้ว เมื่อมันหลุดออกมาเช่นนี้คงจะต้องดำเนินคดี เนื่องจากสร้างความไม่เป็นธรรมกับเรา"ดร.สรายุทธ กล่าว